
คนยุคนี้สายตาห่างจากจอไม่ได้แม้สักนาที ผละจากจอโทรทัศน์ก็ต้องจอคอมพ์ ถัดจากจอคอมพ์ก็ต้องจอมือถือ ดวงตาสะสมความเหนื่อยล้าจนทำให้ประสิทธิภาพของดวงตาถดถอยลงในระยะเวลาที่รวด เร็วกว่าคนรุ่นก่อนๆ
แต่ในเมื่อไม่สามารถหลีกเลี่ยงเทคโนโลยีที่อยู่ ในจอรอบตัวได้ เราจะมีวิธีดูแลดวงตาอย่างไรให้สดใสและแจ่มชัดไปอีกนาน คุณ “คินดงซอบ” ผู้เชี่ยวชาญด้านการฟื้นฟูสายตาจากแดนกิมจิมีเทคนิคง่ายๆ ใช้เวลาไม่มากมาฝากเราค่ะ
10 วิธีสายตาดี สวยหวาน
1. กะพริบตาเบาๆ
Why : คนที่จ้องจอคอมพ์นานๆ กล้ามเนื้อตาจะเกร็งตัวจนอ่อนล้า
How : หมั่นดูแลดวงตาด้วยท่าบริหารเพิ่มความยืดหยุ่นให้ดวงตา
1.1 นั่งหลับตา แล้วสูดลมหายใจเข้าลึกๆ 3 - 4 วินาที พร้อมแหงนคอไปข้างหลังหายใจออก
- ลืมตา หายใจเข้า กะพริบตา 1 ครั้ง หายใจออก กะพริบตา 1 ครั้ง
1.2 ยกศีรษะกลับมาตั้งตรง ลืมตามองตรงไปข้างหน้า กะพริบตา 1 ครั้ง

1.3 เหลือบตาขึ้นข้างบน กะพริบตา 1 ครั้ง เหลือบตามองข้างล่าง กะพริบตา 1 ครั้ง
1.4 เหลือบตามองทางซ้าย กะพริบตา 1 ครั้ง เหลือบตามองทางขวา กะพริบตา 1 ครั้ง
1.5 เหลือบตามองขึ้นเฉียงขวา กะพริบตา 1 ครั้ง
- เหลือบตามองลงเฉียงซ้าย กะพริบตา 1 ครั้ง
- เหลือบตามองขึ้นเฉียงซ้าย กะพริบตา 1 ครั้ง
- เหลือบตามองลงเฉียงขวา กะพริบตา 1 ครั้ง
1.6 กลอกตา ตามเข็มและทวนเข็มนาฬิกา อย่างละ 1 รอบ

2. อ่านหนังสือถูกวิธี
- ใช้หลอดไฟชนิดไส้แทนชนิดฟลูออเรสเซนต์อย่าให้กระทบตาโดยตรง
- ให้หนังสือห่างจากดวงตา 30 เซนติเมตร
- อย่าจ้องค้างนานๆ ให้กะพริบตาขณะอ่าน
- พักสายตาโดยมองไปไกลๆ บ้าง
- พัก 5 - 10 นาที ทุกการอ่าน 1 ชั่วโมง
- บริหารคอทั้งก่อนและหลังการอ่านโดยก้มหัวไปข้างหน้า แหงนไปข้างหลังเอียงข้างซ้าย - ขวา แล้วหมุนเป็นวงกลม
3. หายใจด้วยดวงตา
บริหารการหดตัวของลูกตาและการไหลเวียนโลหิตรอบดวงตา
- กำมือแน่น พร้อมหลับตาปี๋ จนรู้สึกว่าน้ำตาจะไหล แล้วนับ 1 - 3
- พอนับ 4 ลืมตาทันที กะพริบตาเบาๆ 4 ครั้ง ครั้งละ 4 วินาที ทำซ้ำ 2 - 4 รอบ
- ถูมือทั้งสองเข้าด้วยกันจนร้อนแล้วยกฝ่ามือวางบนเปลือกตา

4. กระตุ้นนิ้วมือ
นิ้วมือสัมพันธ์กับร่างกาย โดยเฉพาะสมอง นอกจากนี้การบริหารนิ้วยังช่วยไม่ให้สายตาเสื่อมง่าย
- ดึงนิ้วแล้วหมุนเป็นวงกลมทีละนิ้ว
- ดัดนิ้วไปข้างหลังทีละนิ้ว
- กางนิ้วแต่ละนิ้วออกจากกัน

5. ผ่อนคลายด้วยน้ำอุ่น & น้ำเย็น
Why : อุณหภูมิน้ำที่แตกต่างช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต รักษาสมดุลของ กรด - ด่างในดวงตาได้
How : ชโลมเปลือกตาด้วยน้ำอุ่น 10 วินาที แล้วเปลี่ยนเป็นน้ำเย็น หรือใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำอุ่นและน้ำเย็นแล้วนำมาประคบ

6. รับแดดอ่อนๆ ยามเช้า
- รับวิตามินธรรมชาติ เป็นวิธีบำบัดดวงตาที่ง่ายที่สุด
- หันหน้าออกไปหาแดดแต่อย่ามองแสงแดดโดยตรง
- ค่อยๆ หลับตาลง เงยหน้าหาแสง หายใจเข้า - ออกลึก ๆรับรู้พลังที่ดวงตาสัก 3 - 4 นาที
7. สวมแว่นสายตาให้เหมาะสม
- คนที่มีระดับการมองเห็น 0.8 - 0.10 ควรตดั เลนส ์ให้มีค่าต่ำกว่าระดับการมองเห็นจริงเล็กน้อย
- คนที่มีระดับการมองเห็นน้อยกว่า 0.1 ให้ถอดแว่นเมื่อมองระยะใกล้
- คนที่สายตาสั้นมาก ถ้ามองระยะใกล้ ควรตัดเลนส์ที่มีระดับการมองเห็นราว 0.3
8. เปลี่ยนระยะการมอง & คลายอาการเกร็ง
- นั่งสบายๆ ประสานมือกันหายใจเข้าลึกๆ
- หายใจออก ยกแขนทั้งสองขึ้นเหลือบตามองหลังมือ
- โยกแขนทั้งสองไปทางซ้ายและขวาเบาๆ ทำ 3 - 4 ครั้ง
- วางแขนลง หายใจเข้าลึก ๆพร้อมมองไปที่ “ใกล้ ๆ” เช่นโต๊ะตรงหน้า
- หายใจออกยาว ๆ พร้อมมองออกไปไกล ๆ เช่นนอกหน้าต่าง
9. ดวงตาสดชื่นทุกที่ทุกเวลาด้วย “สุดยอดวิธีกดจุดสำหรับสาววัยทำงาน”
กระตุ้นต่อมน้ำตา แก้ตาแห้ง
Why : ดีต่อการไหลเวียนโลหิต ช่วยเพิ่มความสามารถในการปรับโฟกัสของดวงตา
How : ใช้นิ้วกดจุดลึก ๆ พร้อมนับ 1 - 3 พอนับ 4 คลายน้ำหนักนิ้ว ทำซ้ำ 8 รอบจังหวะสุดท้ายคลึงจุดที่กดเบาๆ
10. รับประทาน “อาหารตา” อย่างสม่ำเสมอ
คนที่รับประทานเนื้อสัตว์ติดมัน น้ำตาล และขนมขบเคี้ยวที่มีเกลือหรือโซเดียมมากเกินไปมักสายตาไม่ดีเพราะอาหารเหล่า นี้มีฤทธิ์เป็นกรดสูง ทำให้เยื่อหุ้มลูกตาอ่อนแอ เพื่อสุขภาพตาที่ดี สาว ๆ ควรได้รับออกซิเจนวิตามิน และแร่ธาตุในปริมาณที่เหมาะสม ดังนี้
- แคลเซียม : ช่วยฟื้นฟูความยืดหยุ่นของดวงตาหลังอ่านหนังสือหรือดูทีวีนานๆ
- วิตามินเอ : ช่วยบำรุงสายตาและการปรับโฟกัสดวงตา
- โปรตีนไขมันต่ำ : โดยเฉพาะปลาทะเลหลังสีฟ้าเช่น ปลาแมคเคอเรลปลาที่กินได้ทั้งก้าง
- ผักบำรุงสายตา เช่น กะหล่ำปลี ผักโขม ผักกาดขาว หัวไช้เท้า รวมถึงต้นอ่อนของพืชต่างๆ